Header Ads

SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนรอบ Series A ใน Ema บริษัท Generative AI ผู้บุกเบิกระบบ Agentic AI สำหรับองค์กร


เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัท Venture Capital ของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) มุ่งเน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพด้าน Disruptive Technology ทั่วโลก ล่าสุด ประกาศเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนรอบ Series A มูลค่ากว่า 36 ล้านเหรียญสหรัฐ ใน Ema บริษัท Generative AI ในซานฟรานซิสโกที่มุ่งพัฒนาโซลูชันด้าน AI สำหรับองค์กรแบบครบวงจร เพื่อยกระดับการทำงานของพนักงานสู่โลกอนาคต โดยการระดมทุนครั้งนี้ นำโดย Accel และ Section 32 ร่วมด้วย SCB 10X, Prosus Ventures, Hitachi Ventures, Sozo Ventures, Wipro Ventures, Colle Capital และ Frontier Ventures ส่งผลให้ยอดรวมเงินทุนที่ Ema ระดมทุนได้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตอกย้ำภารกิจ "Moonshot Mission" ของ SCB 10X ในการมุ่งมั่นสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยีที่สามารถผลักดันให้ SCBX Group มุ่งสู่เป้าหมายการเป็น AI-First Organization

ระบบ Agentic AI ที่ล้ำสมัยของ Ema ได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้ AI Agent หรือที่เรียกว่า Persona ของ Ema เพื่อดำเนินงานที่ซับซ้อนและหลากหลายตั้งแต่ต้นจนจบ และสิ่งที่ทำให้แพลตฟอร์มของ Ema โดดเด่นคือผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความสามารถในการเขียนโค้ด ทำให้ผู้ใช้งานทุกหน่วยงานในองค์กรสามารถสร้างและปรับแต่ง AI เพื่อใช้ในการยกระดับการทำงานของพนักงานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ระบุคำสั่งใช้ด้วยภาษาธรรมชาติ (Natural Language Interface) ซึ่ง Ema จะช่วยลดความซับซ้อนให้กับผู้ใช้งาน และลดอุปสรรคสำหรับธุรกิจที่ต้องการนำโซลูชัน AI ขั้นสูงมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายสำหรับพนักงาน

นับตั้งแต่เปิดตัวแพลตฟอร์มของ Ema ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มผลิตภาพให้กับองค์กรทั่วโลกจำนวนมาก โดยนำเสนอการบูรณาการที่ราบรื่น การปกป้องข้อมูล และความแม่นยำ ด้วยโครงสร้างแบบ Multi-agent architecture ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางบริษัท Ema สามารถเอาชนะข้อจำกัดที่มีอยู่ในโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) แบบดั้งเดิม เช่น ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น และการขาดข้อมูลเชิงลึกเฉพาะทางที่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจ ทำให้ Ema สามารถนำเสนอฟังก์ชันการทำงานที่ทลายข้อจำกัดการทำงานของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) แบบเดิมได้เช่น:
  • ปรับการใช้งานให้เข้ากับข้อมูลและกระบวนการทำงานเฉพาะขององค์กร
  • ใช้ประโยชน์จาก LLMs หลายความสามารถตามโจทย์ขององค์กร ที่คำนึงถึงความแม่นยำ ต้นทุน และประสิทธิภาพ
  • รักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลโดยการดำเนินงานภายในระบบโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท
  • แสดงผลลัพธ์ที่สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ซึ่งมีความสำคัญต่อความรับผิดชอบทางธุรกิจ
  • อัปเดตและเรียนรู้จากข้อมูลองค์กรแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่อง
  • ดำเนินงานที่ซับซ้อนและหลายขั้นตอนได้อย่างอิสระด้วยตนเอง

Mr.Surojit Chatterjee CEO และผู้ร่วมก่อตั้งของ Ema กล่าวว่า "เป้าหมายของเรา คือ การผลักดันศักยภาพขององค์กรด้วยการทำให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่าน Agentic AI ที่ใช้งานง่ายและแม่นยำ Universal AI Employee ของเราจะช่วยเหลือธุรกิจในการดำเนินงานในด้านต่างๆ เช่น การสนับสนุนลูกค้า การช่วยเหลือพนักงาน การส่งเสริมการขาย การปฏิบัติตามกฎระเบียบ การดำเนินการด้านรายได้ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะช่วยให้ทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยให้พนักงานสามารถลงทุนเวลากับงานเชิงกลยุทธ์และงานที่มีความสำคัญมากที่สุด"

ด้าน นางมุขยา (ใต้) พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และ Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า "เราขอแสดงความยินดีกับทีม Ema สำหรับการระดมทุนที่ประสบความสำเร็จครั้งนี้ การใช้ Generative AI อย่างสร้างสรรค์ของ Ema เพื่อช่วยขับเคลื่อนการทำงานขององค์กรให้เป็นอัตโนมัติและอิสระนั้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านการลงทุนของเราใน Deep Tech ด้วยแพลตฟอร์มซึ่งผสมผสาน Generative Workflow Engine™, Knowledge Graph และ EmaFusion™ Model ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Ema สามารถจัดการกับความท้าทายที่สำคัญสำหรับการนำ AI ไปปรับใช้ในองค์กร ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดระดับสูงสุด สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากการใช้ AI เป็น 75% ภายในปี 2571 เราเชื่อว่าลงทุนในครั้งนี้จะให้ความรู้เชิงลึกที่มีประโยชน์ สร้างคุณค่าเพิ่มในการนำโซลูชัน AI มาประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ และเป็นไปตามข้อกำหนด เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนวิสัยทัศน์ของ Ema ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานในอนาคตร่วมกับ Universal AI Employee พร้อมตั้งตารอนวัตกรรมใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"

Ema ก่อตั้งขึ้นในปี 2566 และประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจในปีแรก โดยสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรทั่วโลกในภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ ไอที ​​กฎหมาย บริการทางการเงิน และการดูแลสุขภาพและการแพทย์ นอกจากนี้ทีมผู้ก่อตั้งของ Ema ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีในบริษัทต่างๆ เช่น Google, Flipkart, Coinbase และ Okta ทำให้ Ema มีศักยภาพในตลาด Agentic AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 41 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2572 ในฐานะผู้บุกเบิก Agentic AI ความสามารถของ Ema ในการปรับแต่งและปรับใช้ "Universal AI Employee" หรือ "Persona" สำหรับฟังก์ชันทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง จะสามารถกำหนดอนาคตของการทำงานในหลายอุตสาหกรรม ส่งผลให้ Ema เป็นผู้นำยุคใหม่ของการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ซึ่งนวัตกรรมนี้จะส่งเสริมการพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น


SCB 10X Invests in Ema, the Pioneer of Agentic AI Systems for Enterprises

SCB 10X, the disruptive technology investment arm of SCBX Group, announced their participation in the series A funding round for Ema, a San Francisco-based generative AI company creating Universal AI Employees of the future. The $36M Series A extension round, co-led by Accel and Section 32, with participation from SCB 10X, Prosus Ventures, Hitachi Ventures, Sozo Ventures, Wipro Ventures, Colle Capital, and Frontier Ventures, brings Ema's total funds raised since inception to $61 million. The investment in Ema underscores SCB 10X's "Moonshot Mission" in backing frontier technology startups globally, and their conviction in the powerful breakthroughs generative AI will bring to enterprises.

Ema's groundbreaking agentic AI system transforms workplace productivity by using a collection of AI agents, known as Ema's Personas, to execute a wide range of complex tasks end-to-end. Notably, Ema's platform requires no coding, enabling enterprise users in any function to customize and deploy AI employees with a natural language interface. By removing the complexities to end users, Ema lowers the barrier for businesses looking to adopt advanced AI solutions and becomes a powerful and easily accessible tool for employees to capitalize on. Since launch, Ema's platform has improved efficiency and boosted productivity for numerous organizations, offering seamless integration, data protection, and unparalleled accuracy. Their unique multi-agent architecture overcomes the limitations inherent in traditional LLMs, such as inaccurate outputs, potential data security risks, and the lack of domain-specific insights necessary for informed decision-making, enabling Ema to provide functionalities static LLMs are unable to serve, such as the ability to:
  • Adapt to enterprise-specific data and workflows
  • Leverage multiple LLMs based on accuracy, cost, and performance requirements
  • Maintain data privacy and security by operating within the company infrastructure
  • Provide explainable and verifiable outputs, crucial for business accountability
  • Continuously update and learn from real-time enterprise data
  • Execute complex and multi-step tasks autonomously

Surojit Chatterjee, CEO and Co-founder of Ema, said "Our goal is to revolutionize enterprises by enabling every employee to work more efficiently through easy-to-deploy and precise agents. Our universal AI employee will assist businesses in carrying out tasks in areas such as customer support, employee assistance, sales enablement, compliance, revenue operations, and beyond, freeing up teams to concentrate on the most strategic and valuable projects."

Mukaya (Tai) Panich, CEO and Chief Venture and Investment Officer at SCB 10X, expressed, "Congratulations to Surojit Chatterjee, Souvik Sen, and the Ema team on the successful fundraise. Ema's innovative use of Generative AI to power enterprise workflow automation strongly aligns with our investment thesis in the Deep Tech space. Their platform, which combines proprietary Generative Workflow Engine™, Knowledge Graph, and EmaFusion™ Model, addresses critical challenges for enterprise AI adoption, while ensuring the highest levels of security and compliance. As SCBX Group aims to increase our AI-enabled revenue to 75% by 2028, we believe this partnership will provide valuable insights into deploying efficient, reliable, and compliant AI solutions. We're excited to support Ema's vision of transforming the future of work with Universal AI Employees and look forward to the innovations that lie ahead."

Founded in 2023, Ema has achieved impressive traction within the first year, securing enterprises in various sectors including IT, legal, financial services, and healthcare. The founding team's track record in scaling products and technologies at companies such as Google, Flipkart, Coinbase, and Okta sets Ema on a promising trajectory to capture the fast-growing autonomous AI and agents market, projected to reach $41 billion by 2029.

As a pioneer of agentic AI, Ema's ability to customize and deploy "AI employees" or "Personas" for specific business functions will redefine the future of work across multiple industries. Ema is leading a new era of collaboration between human and AI employees, where innovation flourishes, and productivity skyrockets.

No comments

Powered by Blogger.