Header Ads

InnovestX จับกลุ่ม Ultra High Net Worth ลุยตลาด Private Fund อย่างต่อเนื่อง ดันฐานลูกค้าโตกว่า 900% สร้างผลประกอบการชนะทุกตลาดที่เข้าลงทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา


บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เรือธงด้านการลงทุนภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) เดินหน้าลุยตลาดกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง หรือ Ultra High Net Worth โดยหน่วยงาน Private Fund Management ภายใต้ชื่อ Alpha Fund ปัจจุบันมีนโยบายการลงทุน 4 นโยบาย คือ ลงทุนในประเทศไทย (TH Alpha), ลงทุนในประเทศเวียดนาม (VN Alpha), ลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย (ID Alpha) และ Global Alpha เน้นลงทุนในตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Markets) เช่น สหรัฐอเมริกา และ ยุโรป ปัจจุบันสามารถดันฐานลูกค้าเติบโตขึ้นกว่า 900% (เทียบกับปี 2019) ปัจจุบัน เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีส่วนแบ่งตลาดกองทุนส่วนบุคคลเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย (ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2566) ทั้งยังสร้างผลประกอบการเหนือตลาดที่เข้าลงทุนเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี อาทิ กองเวียดนาม (VN Alpha) ซึ่งเป็นกองเรือธง (Flagship Fund) มีขนาดทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) ขนาดใหญ่ที่สุด มีมูลค่ากว่า 7,500 ลบ. คิดเป็นกว่าครึ่งนึงของ AUM ทั้งหมดที่มีลูกค่ากว่า 15,000 ลบ. และให้ผลตอบแทนนักลงทุนมากกว่า +50.1% ตั้งแต่เปิดกองทุนเวียดนามเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2021) เทียบกับดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) ที่ปรับตัวขึ้นเพียง +0.4%

นายพสุวุฒิ วิไลนิรันดร์, CFA, ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า "เศรษฐกิจเวียดนามปัจจุบันอยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยตัวเลขประมาณการ GDP ล่าสุด 1H 2024 สูงกว่าความคาดหมาย เติบโตถึง 6.4% การส่งออกเริ่มฟื้นตัวชัดเจน เติบโต 10.5% อีกทั้งยังสามารถดึงดูดเม็ดเงิน FDI (Foreign Direct Investment) ถึง 15.2 พันล้านดอลล่าสหรัฐฯ คิดเป็นการเติบโตกว่า 13.1% รวมถึงยอดค้าปลีกในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 9.1% เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว แสดงถึงภาคการอุปโภคบริโภคภายในประเทศที่เริ่มทยอยฟื้นตัว อีกทั้งตัวเลขนักท่องเที่ยวในครึ่งปีแรกก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงก่อนโควิดในปี 2019 แล้ว แม้เวียดนามเป็นประเทศที่ยังมีขนาดเศรษฐกิจค่อนข้างเล็ก แต่ก็มีอัตราการเติบโตที่สูง จากการบริหารงานของรัฐบาลที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันในระยะยาวของประเทศ เห็นได้จากการมี FTA (Free Trade Agreement) กับกว่า 80 ประเทศทั่วโลก (คิดเป็น 90% ของ GDP โลก) รวมถึงการเป็นพันธมิตรที่สําคัญเชิงกลยุทธ์ (Strategic partnership) กับสหรัฐฯ และสร้างพันธมิตรที่ดีกับเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตต่างๆ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, Semiconductor, อุปกรณ์ทางการแพทย์และยา รวมถึงประเทศจีน ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ เช่น รถไฟรางคู่ และท่าเรือน้ำลึก เพื่อเป็นการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศที่มีพรมแดนเชื่อมติดกัน ด้วยเหตุนี้ หน่วยงาน Private Fund Management จึงเล็งเห็นศักยภาพของประเทศเวียดนามมีโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมาก และมีแนวโน้มที่จะแซงขนาดเศรษฐกิจของไทยได้ภายใน 4-5 ปี และมีโอกาสที่รายได้ต่อหัวจะแซงประเทศไทยในอีก 10-15 ปีข้างหน้า"

"ด้านธุรกิจในเวียดนาม มีหุ้นจำนวนหลายตัวที่น่าสนใจ โดยกองทุน Alpha Fund VN ได้เลือกเข้าลงทุนประมาณ 7-12 ตัว ที่มองว่าเป็นหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นไทยในระยะยาว เรามองว่าเวียดนามอาจจะเป็น 1 ในไม่กี่ประเทศใน ASEAN ที่มีโอกาสก้าวข้าม Middle-income trap และเติบโตเป็นประเทศที่พัฒนาสูงอย่างเกาหลีใต้ได้ในอนาคต และ เมื่อเร็วๆ นี้ หน่วยงาน Private Fund Management ได้จัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พานักลงทุนเข้าเยี่ยมชมกิจการ (Company Visit) บริษัทอันดับ 1 ของแต่ละอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม อาทิ Mobile World Investment Corp (MWG) บริษัทค้าปลีกสมัยใหม่ด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และ Grocery Stores, Phu Nhuan Jewelry (PNJ) บริษัทค้าปลีกเครื่องประดับเพชรและทองคำ, Sabeco Brewery (SAB) บริษัทผู้ผลิต Saigon Beer, Gemadept (GMD) บริษัทโลจิสติกส์ ซึ่งมีกิจการครอบคลุมทั้งทางบก อากาศ และน้ำ ทั้งยังเปิดโอกาสให้นักลงทุน ร่วมฟังวิสัยทัศน์ และพูดคุยกับผู้บริหาร FPT Corporation บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน อีกด้วย นอกจากนี้นักลงทุนยังได้พบปะผู้บริหารบริษัทชั้นนำของไทย ซึ่งมีประสบการณ์ดำเนินกิจการในประเทศเวียดนามมากว่า 10 ปี อาทิ AMATA, Central Retail และ SCB Vietnam เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก เพื่อสร้างความได้เปรียบการลงทุน" นายพสุวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

โดย Alpha Fund by InnovestX มี 3 ข้อลักษณะเด่นที่แตกต่างจากกองทุนรวมทั่วไปดังนี้
  1. Alpha Fund มีทีมนักวิเคราะห์ In-house ในแต่ละประเทศที่ไปลงทุนโดยเฉพาะ โดยมีการศึกษา พื้นฐานธุรกิจ วิเคราะห์อุตสาหกรรมและปัจจัยภายนอกและผู้บริหารอย่างละเอียด เพื่อประเมินมูลค่า ของกิจการเป้าหมายอย่างเป็นระบบ และลงทุนในกิจการตรงด้วยตัวเอง ไม่ใช่เป็นการลงทุนผ่านกองทุน (Feeder Fund) ที่คิดค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนและพึ่งพาการตัดสินใจจากบุคคลอื่น
  2. Alpha Fund ไม่ได้ลงทุนอิงสัดส่วนการถือหุ้นกับดัชนี (No Index Benchmarking) กองทุนจะลงทุนแบบ Bottom-up โดยเลือกถือหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีทีสุดเมื่อเทียบกับความเสี่ยงเพียง 7-15 ตัวเท่านั้นในแต่ละช่วงเวลา (High Conviction)
  3. Alpha Fund ดำเนินงานให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของลูกค้า (Alignment of Interest) เนื่องจาก รูปแบบการจัดการเป็นในลักษณะของส่วนแบ่งกำไร (Profit Sharing) ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับ Hedge Fund ต่างประเทศ กล่าวคือ จะมีค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งจากผลกำไร (Performance Fee) และหากปีใดมีผลขาดทุน ทางกองทุนจะต้องบริหารกองทุนให้กลับมามีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่สูงที่สุดที่ผ่านมา (High Water Mark) ก่อน จึงจะเรียกเก็บ Performance Fee ได้

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนใน Private Fund กองทุนส่วนบุคคล ที่สร้างผลตอบแทนในระยะกลาง-ยาวเหนือกว่าตลาดสามารถติดตามข่าวสารการลงทุนของ Alpha Fund by InnovestX ได้ที่ Line Official Account: @alphafund หรือ ติดต่อผู้ดูแลการลงทุนส่วนบุคคลของท่าน หรือโทร 02 949 1999









InnovestX Targets Ultra High-Net-Worth Individuals, Continues Expanding in the Private Fund Market, Achieves Over 900% Growth in Customer Base, and Outperforms All Markets Invested in Over the Past 5 Years

InnovestX, an investment flagship of SCBX group, is aggressively entering the private fund market to cater to ultra high-net-worth clients. Operating under the Private Fund Management unit known as Alpha Fund, it currently offers four investment policies: TH Alpha focusing on Thailand, VN Alpha on Vietnam, ID Alpha on Indonesia, and Global Alpha targeting developed markets like the United States and Europe. The company has seen its client base grow by over 900% compared to 2019, solidifying its position as Thailand's top player in the private fund market (data from the Securities and Exchange Commission in 2023). Its flagship fund, VN Alpha, boasts the largest assets under management (AUM) exceeding 7,500 million baht, representing more than half of its total AUM of over 15,000 million baht. The fund has delivered a remarkable return of over +50.1% since its inception in 2021, contrasting sharply with the modest +0.4% growth of the VN Index over the same period.

Mr. Phasuvut Vilainerun, Assistant Managing Director and Head of Private Fund at InnovestX Securities Co., Ltd., commented, "Vietnam's economy is currently in a recovery phase. The latest GDP estimate for the first half of 2024 exceeded expectations, growing by 6.4%. Exports have clearly rebounded, increasing by 10.5%, and the country has attracted $15.2 billion in foreign direct investment (FDI), a growth of 13.1%. Additionally, domestic retail sales have continuously risen by 9.1% compared to the same period last year, indicating a gradual recovery in domestic consumption. The number of tourists in the first half of the year has also surpassed pre-COVID levels of 2019. Although Vietnam's economy is relatively small, it has a high growth rate, driven by stable government management, which has contributed to consistent economic growth over the past decade.

The Vietnamese government places great emphasis on long-term strategies to enhance the country's competitive capabilities. This is evidenced by its Free Trade Agreements (FTAs) with over 80 countries worldwide, covering 90% of global GDP. Additionally, Vietnam has established strategic partnerships with key players like the United States and forged strong alliances with South Korea and Japan to transfer various manufacturing technologies, including electronics, electrical appliances, semiconductors, medical devices, and pharmaceuticals. Vietnam is also collaborating with China on major national infrastructure projects such as dual-track railways and deep-sea ports to support cross-border trade. Given these developments, the Private Fund Management unit recognizes Vietnam's high economic growth potential. We predict that Vietnam's economy could surpass Thailand's within the next 4-5 years and that its per capita income might overtake Thailand's in the next 10-15 years."

"In Vietnam, there are several interesting stocks, with the Alpha Fund VN choosing to invest in about 7-12 stocks that are believed to have the potential to yield better returns than Thai stocks in the long term. We believe that Vietnam could be one of the few countries in ASEAN to overcome the middle-income trap and develop into a highly advanced country like South Korea in the future. Recently, the Private Fund Management unit organized an exclusive trip for investors to visit the leading companies in various industries in Vietnam. These included Mobile World Investment Corp (MWG), a modern retailer of electronics and grocery stores; Phu Nhuan Jewelry (PNJ), a leading retailer of diamond and gold jewelry; Sabeco Brewery (SAB), the producer of Saigon Beer; and Gemadept (GMD), a logistics company covering land, air, and sea operations. Moreover, investors had the chance to engage with the management of FPT Corporation, the largest technology company in Vietnam and the top tech company in ASEAN, to gain insight into their vision and strategies. Investors also met with executives from leading Thai companies with over 10 years of experience operating in Vietnam, such as AMATA, Central Retail, and SCB Vietnam, to gain in-depth insights and create an investment advantage," Mr. Phasuvut concluded.

The Alpha Fund by InnovestX has three distinctive features that set it apart from traditional mutual funds:
  1. Dedicated In-House Analysts: Alpha Fund employs in-house analysts in each country where it invests. These analysts conduct thorough studies of business fundamentals, industry analysis, external factors, and management evaluations to systematically assess the value of target enterprises. The fund invests directly in these enterprises rather than through feeder funds, thereby avoiding double fees and reliance on third-party decisions.
  2. No Index Benchmarking: Alpha Fund does not invest based on index weightings. Instead, it follows a bottom-up investment approach, selecting only 7-15 stocks at any given time that are believed to offer the best returns relative to their risk (High Conviction).
  3. Alignment of Interest: Alpha Fund operates in a way that aligns with the interests of its clients, utilizing a profit-sharing model similar to international hedge funds. This means there is a performance fee based on profits, and in years where there are losses, the fund must first achieve the highest previous net asset value (High Water Mark) before charging a performance fee.

For investors interested in a private fund that aims to deliver superior medium-to-long-term returns, you can follow Alpha Fund by InnovestX on their Line Official Account: @alphafund, contact your personal investment advisor, or call 02 949 1999 for more information.

#InnovestX #PrivateFund #AlphaFundInnovestX #InvestmentUniverseInYourHands

*Investors should understand the nature of the products, return conditions, and risks before making investment decisions. Past performance is not indicative of future results

No comments

Powered by Blogger.